special : ลาลาลอย 100% (3)

CUT special : ลาลาลอย 100% (3)

“โอ๋ๆๆๆๆ เดือนจ๋าา ไอซ์แกล้งเล่นเฉยๆอะ ก็เดือนชอบพูดเล่นกับไอซ์ว่าตายๆ ไอซ์ก็ไม่ชอบอะ”

“…”

“เจ๊ากันน้าเดือนจ๋าาา”

“มึงห้ามเล่นงี้อีกนะไอซ์ ฮึก”

“โอ๋ๆๆๆๆ อย่าร้องงงง”

ผมปล่อยโฮอีกรอบก่อนจะโผเข้ากอดมันที่นั่งเบาะตรงข้ามคนขับ แล้วซุกหน้าไปที่คอมันก่อนที่จะ...

 “Game”

“เฮ้ยไรเนี่ยยยย”

...ล็อคตัวมันไว้แล้วยกมาที่เบาะข้างคนขับอย่างทุลักทุเลเพราะตัวมันก็ใหญ่แถมขาก็ยาว แต่ก็ไม่มีผลอะไรถ้าใจเราจะเอา

“มึงตามผมไม่ทันหรอกครับน้องไอซ์”

แสยะยิ้มอย่างปีศาจด้วยคราบน้ำตาเมื่อครู่ ก่อนจะประกบจูบหนักๆ ลงไปทำโทษไอ้คนขี้แกล้งที่กำลังนั่งอยู่บนตักผม คืนนี้แหละ ฟิล์มดำจะเป็นประโยชน์ หึหึ

“อื่อ”

ปากก็จูบบดขยี้ไป มือก็คอยล้วงเข้าไปลูบไล้ที่แผ่นหลังเนียน กับคนนี้ไม่ได้เลย ไม่หาเศษหาเลยไม่ได้เลย ได้หนึ่งจะเอาสองตลอด แถมหยุดไม่ได้ด้วย..

ผมจัดการถอดเสื้อยืดสีฟ้าของมันออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะผละปากที่จูบกันเมื่อครู่ออกมาบดขยี้ที่หน้าอกขาวเนียนแทน

“ฮื่อเดือน ไม่เอาที่นี่ ขึ้นห้องเถอะ..”

“ไม่ กูจะเอาที่นี่ มึงทำกูโกรธมีสิทธิ์ต่อรองหรอ”

“งื้อมึง เดี๋ยวคนเห็น”

“ไม่มีใครเห็นหรอก ที่จอดรถหอมืดขนาดนี้”

ผมตอบมัน พลางปรับเบาะให้ไหลไปข้างหลังให้สุด ก่อนจะพยายามถอดกางเกงยีนส์ของไอซ์ออก และก็ต้องหยุดมือ เพราะมันเอื้อมมือมาจับมือผมไว้

“ฮือ เอาจริงดิ”

“กูมาขนาดนี้ละไอซ์ ให้กูเหอะ”

“อือ”

ไอซ์ปล่อยมือจากมือผม และปล่อยให้ผมถอดกระดุมกางเกงยีนส์ก่อนจะยกตัวให้ผมถอดออกทั้งตัว

“มึงแต่ในรถมันแคบ”

“แคบเงี้ยแหละ ตื่นเต้น” ผมตอบพลางลูบไล้ไปตามต้นขาของไอซ์ที่นั่งคร่อมตักผมอยู่อย่างค่อนข้างทุลักทุเลเพราะเบาะอันแสบแคบของรถมันทำให้ไม่รู้จะจัดขาตัวเองยังไง ผมก็กำลังจะยกตัวตัวเองนิดหน่อยเพื่อถอดกางเกงยีนส์ แต่จู่ๆ ไอซ์ก็เป็นฝ่ายถอดให้ผมซะเอง

“เอ้า จัดการเองซะงั้น”

“สงสารคนเพิ่งโดนแกล้งมาเถอะ”

“เออดีเลย งั้นทำให้หน่อย”

“เออรู้ละ”

แม่พริกแห้งจัดการถอดกางเกงยีนส์และกางเกงชั้นในผมภายในเวลาอันเสี้ยววิ ก่อนจะค่อยลูบไล้ไปที่แกนกายของผมเบาๆ อย่างชวนหวิว แต่แม่งก็เหมือนมันแกล้ง ลูบๆไปมาวนๆอยู่แบบนั้น แล้วจู่ๆก็ทำท่าจะเปิดประตูออกไปจนผมร้องจ๊าก แล้วมันก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะมาลูบไล้น้องชายผมเล่นอีกทีพลางกัดปากไปด้วย

เนี่ยแหละ สาเหตุที่ผมติดมัน มันมักมีอะไรพิเศษๆ ในแต่ละเกมเสมอ

“ซักทีครับ”

                ไอซ์ยิ้มหวานๆให้ผมหนึ่งที ก่อนจะใช้ทั้งสองมือกอบกุมนากินีลูกพ่อไว้เต็มกำมือ จริงๆก็สงสัยมาตลอด ว่าของผมใหญ่หรือแม่งอักเสบ มันจะใหญ่อะไรขนาดนี้นะ อ๋อไม่ได้อวด แค่สงสัยอะครับ

                ไอซ์ขยับมือขึ้นลงช้าๆ เหมือนเด็กกำลังเล่นอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะยกก้นตัวเองมาจ่อที่แกนกายใหญ่ของผม

               

                “เฮ้ยๆ จะทำเองหรอไอซ์? มันจะเจ็บนะเว้ย”

                ผมรีบร้องปรามไอซ์ที่กำลังจะกดแกนกายผมเข้าไปในตัวเองที่นั่งทับตัวผมอยู่ตอนนี้ เอาจริงๆแค่มีเจลกับถุงยังเจ็บตายห่า แล้วนี่ไม่มีเจลไม่มีถุงอะไรสักอย่าง ตายห่า ร้องตายห่าแน่ไอซ์เอ๊ยยย

                “อึกอื้อ”

                “เจ็บไหม”

                “อืออ”

                นั่นไง ซ่าดีนัก มันก็เจ็บอะสิ ไม่ได้เล้าโลมไม่ได้ใช้นิ้วสอดก่อน แถมไม่มีอะไรหล่อลื่นอีกด้วย ไอซ์เอ๊ยยย

                “ลงไหม เจ็บนะ”

                “ไม่ เอาเลย”

                โอ้โหแม่พริกแห้ง ชาวบ้านเขารู้กันเจ็ดย่านน้ำแล้วว่าเมียพี่แซ่บ

            ถ้างั้นพ่อก็ไม่ปราณีแล้วนะครับ..

            พอเห็นว่าไอซ์เริ่มผ่อนคลายมากขึ้นในขณะที่พยายามกดตัวลงที่ตักผม ไอ้หนุ่มนักรักแบบผมก็ไม่รอช้าสวนสะโพกใส่คนบนตักทันที

                “อื้อ!”

                ด้วยความสะดุ้ง ไอซ์โผเข้ากอดคอผมทันทีก่อนที่ผมจะเริ่มเป็นคนคุมเกมแทน ผมสวนสะโพกขึ้นลงเร็วๆโดยมีไอซ์กอดคอผมไว้เป็นลูกลิง

                “อื้อเดือน”

                “ชู่วว เบาๆครับ เดี๋ยวยามได้ยิน”

                “อึกอือ”

                เนี่ยนะเขาถึงบอก คนเราพอมันมีอารมณ์ พอไฟมันติดหน่อย ก็ลืมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไปหมด ที่ไหนตรงไหนที่ทำได้มันก็ทำได้หมด เหมือนผมกับไอซ์ตอนนี้ บนรถที่จอดรถหอ ลงรถแล้วขึ้นห้องนิดเดียวก็ได้แล้ว แต่ดันอยากจะสัมผัสความตื่นเต้น ประสาทจะกิน แต่เอาเถอะ ให้เป็นประสบการณ์รักหวาดเสียว ดีหน่อยที่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีคน ประกอบกับที่จอดรถมืดมากด้วย ไม่งั้นคงไม่กล้าจะบรรเลงรักจนรถสั่นขนาดนี้หรอก

            คนเดินผ่านเขาจะนึกว่ามีโชว์รถบั๊มไหมงี้ก่อน

                แต่จะว่าไป ในรถก็ดีเหมือนกัน สองเราแนบชิดกันบนเบาะเดียวกัน เนื้อกายที่กอดกันแนบชิดจนแทบจะหลอมเป็นร่างเดียวกัน เสียงครางแผ่วเบา และเสียงลมหายใจหอบๆ ที่โคตรจะเซ็กซี่ของไอซ์ แสงสว่างเพียงเล็กน้อยจากแสงจันทร์ที่พอให้เห็นผิวกายขาวเนียนตรงหน้าจนแทบอดใจไม่ไหว สัมผัสของกันและกันที่แสนเคยชิน ทุกอย่างมันก็ยังดีเสมอ ถ้าคนตรงหน้าเป็นไอซ์

                ไอซ์เป็นคนเดียวที่ทำให้ผมบ้าคลั่งได้ตลอดเวลา คู่อื่นบางทีคบกันไปนานๆ การเห็นคู่รักเปลือยกายก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่ชินตา แต่สำหรับผม ร่างไอซ์ที่เปลือยกายไม่เคยเป็นเรื่องเคยชินของผม เรือนร่างของคนตรงหน้านี้ยังทำให้ผมใจเต้น และสั่นระรัวเหมือนกลองสะบัดชัยจังหวะไคลแมกซ์ได้เสมอ

                จังหวะที่เราทั้งสองบรรเลงรักมาจนถึงจังหวะเกือบจะสุด ไอซ์ปล่อยคอจากผมและเอนตัวทิ้งลงไปที่พวงมาลัยแทน แขนข้างนึงก็ยังคงยันไหล่ผมเอาไว้ ส่วนอีกข้างนึงวางไว้ตรงหน้าท้องแกร่งของผม

                ผมเร่งจังหวะให้เร็วมากขึ้น เพื่อจะให้ถึงจุดจบของเพลงรักนี้ ก่อนที่ความไม่ถนัดในท่าจะทำให้ผมทนไม่ไหวจนต้องพลิกไอซ์ลงมาข้างล่างแทนก่อนจะขยับเอวหนาให้ถี่และเร็วขึ้นกว่าเดิม

                “อื้ออ”

                “อืมม ไอซ์ครับ”

                “อ๊าา เดือน..”

                ผมก้มลงไปกดหอมฟอดใหญ่ลงไปที่แก้มเนียนของไอซ์ ก่อนจะคิดข้างในใจว่าถ้าผมเสียคนนี้ไปจริงๆ ผมจะเป็นยังไง ผมอาจจะทุกข์ทน ผมอาจจะอยู่ไม่ได้ และต้องเริ่มทำใจใหม่ และคงไม่กล้ารักใครอีกต่อไป ถ้าเกิดเสียคนนี้ไปจริงๆ

                ทุกเวลาของผมกับไอซ์ตอนนี้มันมีค่ามาก มีค่ามากเกินกว่าจะยอมเสียไป ผมต้องรักษาทุกวันของเราให้ดีที่สุด เพราะชีวิตคนเราก็ไม่มีทางรู้อยู่แล้ว ว่ามันจะจบลงตอนไหน ความสุขจะหมดลงตอนไหนก็ได้ แต่ตราบใดที่ยังมีความสุข ผมก็จะเก็บเกี่ยวความสุขความทรงจำนี้ให้มากที่สุด

            อะไรที่มันบาดหมางใจกัน แล้วพอจะบรรเทาและให้อภัยกันได้ก็ปล่อยทิ้งไว้บ้างก็ได้ เก็บแค่ความรักความสุขที่มีก็พอ หนทางข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ยังไม่มีใครรู้ รู้แค่ปัจจุบัน เรายังมีกันก็ควรรักษารักของกันและกันไว้ก็พอแล้ว

                “อื้ออ”

                “ต่อปะ”

                “บนห้องเลยไอ้เหี้ยยย ไม่เอาบนรถแล้วว ปวดตัววว”

                “งั้นขึ้นห้องเลย กูคิดบิลมึงทั้งคืนแน่”

                “ฮือแม่จ๋าาา อ้ายเดือนไม่โอนโยนนนน”

.

.

.

คือ จะบอกไงดี แต่ง nc ไม่เก่งไม่แซ่บจริงๆ มันได้แค่นี้อะ555555555555555

ขอโทษษษษ555555555555555555555555555555555